top of page

Data Centers Fueling Thailand's Economy ศูนย์ข้อมูลขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย


เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทาง Google ได้ประกาศลงทุนจัดตั้ง Data Center และ Cloud Region ในประเทศไทย ด้วยงบการลงทุนกว่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างงานในช่วงปี 2568 - 2572 ให้กับคนประเทศได้กว่า 14,000 ตำแหน่ง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 140,000 ล้านบาท ภายในปี 2572


โดย Google ได้ประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการพัฒนาประเทศสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน การลงทุนครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่


  1. โครงสร้างพื้นฐาน AI: Google จะลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เช่น การพัฒนาด้านแผนที่ (Google Map) การพัฒนาระบบการแปลภาษา (Google Translate) การพัฒนาโปรแกรมมิ่ง (Programming) การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car หรือ Self-driving Car)  เป็นต้น

  2. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์: Google จะสนับสนุนการพัฒนาทักษะ AI ให้กับคนไทยจำนวน 1.5 แสนคนภายในปี 2569 ผ่านหลักสูตรต่างๆ เช่น AI Essentials และ Samart Skill เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการแข่งขันในยุคดิจิทัล

  3. AI เพื่อสังคม: Google จะนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสังคม เช่น การใช้ Automated Retinal Disease Assessment (ARDA) ในการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานขึ้นจอตา ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์และเพิ่มโอกาสในการรักษาผู้ป่วย


ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้าน AI ของภูมิภาคอาเซียน และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนชาวไทย


การที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง Google ตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญในระดับโลกในอนาคต ผ่านปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้


1. การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล: การลงทุนของ Google จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจดิจิทัล เช่น e-commerce, fintech และ AI

2. การพัฒนาทักษะและนวัตกรรม: Google มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับคนไทยผ่านโปรแกรมฝึกอบรมหรือการจัดเวิร์กช็อป การเพิ่มความรู้และทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงานไทย ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ

3. การส่งเสริม Startup และผู้ประกอบการ: Google เป็นผู้นำในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น Google for Startups ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงทรัพยากรทางเทคโนโลยี ข้อมูลเชิงลึก และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก ผลที่ตามมาคือการเติบโตของระบบนิเวศสตาร์ทอัพในประเทศ และส่งเสริมความสามารถในการขยายตลาดในระดับสากล

4. การสร้างงานและโอกาสทางเศรษฐกิจ: การลงทุนของ Google นำไปสู่การสร้างงานใหม่ในภาคเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งงานด้านไอที การวิจัยและพัฒนา (R&D) และงานในสายงานสนับสนุนต่าง ๆ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ของประชาชนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม อีกทั้งยังช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มเติม เมื่อบริษัทข้ามชาติอื่น ๆ เห็นถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของไทย

5. การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล: การเข้ามาของ Google ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวและยกระดับกระบวนการทางธุรกิจให้มีความคล่องตัวและเป็นดิจิทัลมากขึ้น ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิต การขนส่ง การเงิน และการท่องเที่ยว จะสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และขยายขอบเขตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในยุคดิจิทัลอย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซียที่ทาง Google ได้ประกาศลงทุนสร้าง Data Center และ Cloud Region เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2567 โดยใช้เงินลงทุนกว่า 80,000 - 90,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าประเทศไทยราว 1 เท่าตัว สะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าการลงทุนของ Google ในทั้งสองประเทศ ช่วยให้เห็นภาพรวมของกลยุทธ์การลงทุนในภูมิภาคของบริษัท และอาจสะท้อนถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ เช่น นโยบายภาษี สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล


ทั้งนี้ ประเทศไทยสามารถพัฒนาและผลักดันให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่น่าลงทุนในภูมิภาคอาเซียนได้ ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและพัฒนาระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะแรงงานด้าน STEM เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย เช่น การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การลดขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ และการเสนอมาตรการทางภาษีที่จูงใจ จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อพัฒนาระบบนิเวศน์ทางเทคโนโลยีในภูมิภาค จะเป็นโอกาสในการขยายตลาดและดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติรายใหญ่


ที่มา:

bottom of page