Digital Infrastructure: The Backbone of New Economy โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่
- timeconsulting10
- 12 ก.ย.
- ยาว 2 นาที

ในโลกที่กำลังขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรม ‘โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure)’ ได้กลายเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไม่น้อยไปกว่าโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบสาธารณูปโภคอื่น โดยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่ใช้เชื่อมโยงผู้คนและองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) หรือเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าเหตุใดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในยุคเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) พร้อมทั้งสำรวจผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนโอกาสและความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญในการยกระดับความพร้อมด้านดิจิทัล เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
“อนาคตอยู่ที่โครงสร้างและดิจิทัลคือรากฐานการเติบโต”
เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่พึ่งพาหรือขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ อาทิ เทคโนโลยี 5G เทคโนโลยี Internet of Thing (IoT) เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เทคโนโลยี Automation & Robotics เทคโนโลยี AR & VR และเทคโนโลยี Blockchain มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การขนส่ง การขายสินค้า และการให้บริการ
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้สามารถดำเนินไปได้อย่างเต็มศักยภาพนั้น จำเป็นจะต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ที่มีความพร้อม เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการเชื่อมต่อ การสื่อสาร และการประมวลผลข้อมูล ที่ใช้ประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบดิจิทัลต่าง ๆ หรืออาจกล่าวได้ว่า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลนั้นเป็นตัวกลางสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้บริโภค หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าด้วยกันในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อนั่นเอง

โดยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลนั้นจะครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม (Telecommunications) เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) ดาวเทียมสื่อสาร (Satellite) และโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศ (International Connectivity) เป็นต้น และยังรวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการแพร่ภาพกระจายเสียง (Broadcast) และโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เช่น คลาวด์และศูนย์ข้อมูล (Cloud & Data Center) และระบบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เป็นต้น
จากความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลข้างต้น ในหลายประเทศทั่วโลกภาครัฐจึงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาและเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและเพียงพอต่อการรองรับอุปสงค์ (Demand) ของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และสามารถปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ได้อย่างเต็มขีดความสามารถ ส่งผลให้ในแต่ละประเทศมีการจัดทำแผนและนโยบายระดับชาติสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลขึ้นมาอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ภาครัฐเองก็มีการกำหนดนโยบาย โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างเต็มประสิทธิภาพ

“Empowering Industries Through Digital Infrastructure” โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเส้นทางสู่ความสามารถในการแข่งขัน
การพัฒนาและวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความพร้อมและครอบคลุม ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) และมิติทางสังคม (Social Impact) ในด้านเศรษฐกิจ และสังคม ได้แก่
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ:
การเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดระยะเวลาในการดำเนินงาน และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
การสนับสนุนนวัตกรรมและรูปแบบธุรกิจใหม่ รากฐานสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง ที่จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโมเดลหรือรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ (Business Model) ขึ้นมา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพในการให้บริการ การเข้าถึงลูกค้า และการขยายธุรกิจ
การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ มักจะเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุนในต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI)
การสร้างงานและขยายการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงานในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลสูง อาทิ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญระบบเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ
ผลกระทบเชิงสังคม:
การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียม: มีบทบาทสำคัญในการการสร้างความเท่าเทียมให้แก่ประชาชนทุกคน หรือกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีรายได้น้อย ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี และบริการที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึง
การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน: มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มคุณภาพของการดำรงชีวิตในภาพรวม อาทิ การศึกษาออนไลน์ (e-Learning) การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) บริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
การพัฒนาทักษะและศักยภาพของประชาชน: ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีการปรับปรุงทักษะ (Reskill) เพิ่มทักษะ (Upskill) และสร้างทักษะใหม่ (New Skill) ในด้านต่าง ๆ
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน: ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในทุกขนาด เอื้อต่อการสร้างงานและการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยังช่วยส่งเสริมระบบนิเวศที่มีการเชื่อมโยงกันในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืนในระยะยาว

“ความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย: โอกาสและทิศทางการพัฒนา”
เมื่อพูดถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้คือ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพราะหากพื้นฐานยังไม่แข็งแรง การพัฒนาบริการหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็อาจ ดำเนินไปได้ไม่ราบรื่น อย่างไรก็ดี การประเมินจากดัชนีสากลหลายชุดชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความพร้อมด้านดิจิทัลในระดับค่อนข้างสูง พร้อมรองรับการต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
Telecommunication Infrastructure Index (TII) ปี 2565 ประเทศไทยทำคะแนนได้ 0.9410 อยู่ในอันดับที่ 38 จาก 193 ประเทศทั่วโลก จัดอยู่ในกลุ่ม Very High (VH) หรือความพร้อมระดับสูงมากในด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
ICT Development Index (IDI) ปี 2567 ประเทศไทยมีคะแนน 91.0 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 170 ประเทศทั่วโลกที่ 74.8 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ในกลุ่มผู้นำด้านการพัฒนา ICT อย่างชัดเจน
อัตราการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบประจำที่ (Fixed Broadband Penetration) ปี 2567 ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 130 ต่อจำนวนประชากร ซึ่งสะท้อนถึงการเข้าถึงบริการที่ค่อนข้างครอบคลุมและต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาครัฐยังควรมีการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้โครงสร้างพื้นฐานเพียงพอต่อความต้องการในอนาคต อันจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทย และเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ มีตัวอย่างแนวทางการพัฒนาหรือช่องว่างของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มระดับความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย ดังนี้
การเพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทหรือห่างไกล ทั้งจากการสร้างความครอบคลุมของโครงข่าย และการส่งเสริมอัตราค่าบริการที่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประเทศ
การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการพัฒนาโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้ IoT, Automation, AI และ Big Data อย่างเต็มศักยภาพ โดยเน้นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น นิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษ และเมืองอัจฉริยะ
การส่งเสริมระดับการแข่งขันของบริการโทรคมนาคมในตลาด อาทิ บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่และประจำที่ ปัจจุบันไทยมีผู้ให้บริการน้อยราย เสี่ยงต่อการผูกขาด ภาครัฐจึงควรส่งเสริมการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพบริการและกำหนดค่าบริการที่เหมาะสม
การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมั่นคง เชื่อถือได้ และรองรับการขยายตัวของบริการที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรม การเงิน สาธารณสุข การศึกษา การค้า การท่องเที่ยว และเกษตร

ดัชนีและตัวชี้วัดทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยมีระดับความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สูง โดยเฉพาะในมิติของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและระบบโทรคมนาคม อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญคือ การรักษาความได้เปรียบและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานสามารถรองรับความต้องการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น IoT, AI, Smart City หรือเศรษฐกิจฐานข้อมูล (Data Economy)
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) นั้นไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นภายใต้เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่ทุกประเทศจะต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและวางรากฐานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความพร้อม สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างเป็นวงกว้างและต่อเนื่อง ซึ่งประเทศที่สามารถยกระดับความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศได้เป็นอย่างดี ก็ย่อมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศนั้น ๆ
ที่มา:
แผนปฏิบัติการด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล (พ.ศ. 2565-2570)
(https://datacatalog.onde.go.th/da_DK/dataset/dcb1-1_1/resource/ef337efc-a02f-422f-bbbd-e21f3a9f8605)
ITU, The Economic Contribution of Broadband, Digitization and ICT Regulation
(https://business.columbia.edu/sites/default/files-efs/imce-uploads/CITI/Articles/ITU_study.pdf)
ITU, ICT Development Index 2024 (https://www.itu.int/itu-d/reports/statistics/idi2024/)
NBTC, อัตราการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต่อจำนวนประชากรบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ร้อยละ)


