top of page

Trade Facilitation: พลิกโฉมกระบวนการค้าระหว่างประเทศด้วยการจัดการข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์



ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น การดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศกลายเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยลดความซับซ้อนในกระบวนการซื้อ-ขายระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเตรียมการซื้อขาย การขนส่งสินค้า หรือการชำระเงิน


1) กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ


กระบวนการค้าภายในประเทศที่เชื่อมโยงสู่การค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า (Cross Border Trading) ตามรูปแบบของ Buy-Ship-Pay Model ถูกพัฒนาโดยศูนย์สหประชาชาติเพื่อการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ United Nations Centre for Trade Facilitation and Electronic Business (UN/CEFACT) เพื่อสร้างความชัดเจนและมาตรฐานในกระบวนการ โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่


  1. ขั้นตอนการซื้อ (Buy) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการสำหรับการตกลงซื้อขาย การจัดทำคำสั่งซื้อหรือสัญญาซื้อขาย และการตรวจสอบสินค้าก่อนการส่งออก

  2. ขั้นตอนการส่ง (Ship) เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมการเตรียมการส่งออก การดำเนินพิธีการศุลกากร การขนส่งสินค้า การออกเอกสาร เช่น ใบขนสินค้า ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และการบริหารจัดการการขนส่ง รวมถึงการตรวจสอบสถานะสินค้าในระหว่างการเดินทาง

  3. ขั้นตอนการจ่าย (Pay) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมเอกสารการชำระเงิน เช่น ใบแจ้งหนี้ การดำเนินการทางการเงินผ่านระบบธนาคารหรือช่องทางการชำระเงินอื่นๆ รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม


กระบวนการเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการประสานงานระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ให้บริการขนส่ง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถสรุปประเด็นในแต่ละขั้นตอนการดำเนินงานได้ดังนี้



กระบวนการทั้งหมดต้องการความร่วมมือจากผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ให้บริการขนส่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความล่าช้า หรือข้อผิดพลาดในเอกสาร ด้วยการใช้ Buy-Ship-Pay Model ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการค้าและสร้างความมั่นใจในกระบวนการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ กระบวนการตามกรอบของ UN/CEFACT เพื่อสนับสนุนการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) และการพัฒนาในด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Business) โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดความซับซ้อนในกระบวนการค้าระหว่างประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจผ่านการใช้มาตรฐานร่วมกัน สามารถแบ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการออกเป็น 4 ส่วนดังนี้


  • ผู้บริโภค (Customer)

  • ตัวกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้จัดหา (Intermediary)

  • ผู้จัดหาสินค้าและบริการ (Supplier)

  • เจ้าพนักงานภาครัฐ (Authority)


2) มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ


เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้สามารถสื่อสารและประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องโดยการใช้มาตาฐานสากล ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการดำเนินงาน เพิ่มความโปร่งใส และสนับสนุนการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น โดยกรอบแนวทางและมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) และลดความซับซ้อนในกระบวนการค้าระหว่างประเทศผ่านการจัดทำมาตรฐานการกำหนดรูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นสากล


ตัวอย่างของกรอบแนวทาง มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศที่เป็นพื้นฐานหลักในการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศประกอบด้วย 3 ส่วน


  • กรอบแนวทางการจัดทำมาตรฐานข้อมูลตาม UN/CEFACT โดยมีกรอบมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการดำนวยความสะดวกทางการค้า ดังนี้


    • UN/CEFACT Recommendation 34 ข้อเสนอแนะสำหรับการลดความซับซ้อนและทำให้ข้อมูลที่ใช้ในกระบวนการค้าระหว่างประเทศมีมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบ Single Window สำหรับการค้าระหว่างประเทศ

    • UN/CEFACT Data Semantics กระบวนการที่ทำให้ข้อมูลทางการค้ามีความหมายที่ชัดเจนและสอดคล้องกันระหว่างระบบและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างถูกต้องและลดข้อผิดพลาดในการตีความข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อระบบต่าง ๆ สื่อสารกัน


  • กรอบแนวทางการจัดทำมาตรฐานข้อมูล Pan-European Public Procurement Online (PEPPOL) เป็นกรอบการทำงานและเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้องค์กรและหน่วยงานภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนเอกสารการดำเนินธุรกรรมการจัดซื้อจัดจ้างทางธุรกิจในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (e-Procurement) ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันทางเศรษฐกิจและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรและ SMEs

  • กรอบแนวทางการจัดทำมาตรฐานข้อมูล Key Trade Documents and Data Elements (KTDDE) มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของมาตรฐานเอกสารการค้าและปรับให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติในอุตสาหกรรมการคาดิจิทัลของห่วงโซ่อุปทานผ่านการวิเคราะห์การกำหนดมาตรฐานและการทำให้เป็นดิจิทัลของเอกสารการค้าที่สำคัญรวมถึงประเภทเอกสารตามรูปแบบของ Buy-Ship-Pay Model


สรุป

การนำแนวทาง Buy-Ship-Pay Model และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการค้าระหว่างประเทศ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดความซับซ้อนในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เช่น ผู้บริโภค ผู้จัดหา ตัวกลาง และหน่วยงานรัฐ เอกชน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างระบบการค้าที่มั่นคง โปร่งใส และยั่งยืนในระยะยาว

bottom of page